Translate

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

มนัส พุทธรัตน์ ถือธงนำชาวสวนปาล์มน้ำมัน ทุ่งรังสิต คว้าชัยการต่อสู้ สู่แปลงส่งเสริม


(ตอนจบ)
                 
                       เมื่อ นายมัส พุทธรัตน์ ได้ก้าวเข้าเป็นหนึ่งในชาวปาล์มน้ำมันอย่างเต็มตัวแล้ว ทำให้มีสิทธิออกปากออกเสียงต่างๆได้มากขึ้น รวมทั้งการเรียกร้องให้มีการประกาศเขตส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่ทุ่งรังสิตนี้ด้วย หลังจากเหล่าชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิตเดินเรื่องเองอยู่นาน ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวหรือคืบหน้าเลย ทำให้ต้องรวมตัวกันแล้วยื่นเรื่องถึง ดร.ไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดปทุมธานี ให้ช่วยดำเนินเรื่อง
นายมัส พุทธรัตน์
“ในช่วงเริ่มแรกปัญหาที่เจอคือ พื้นที่ที่จะได้รับการประกาศเขตต้องมีการทดลองปลูกมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 ปี ถึงจะเริ่มประกาศได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ได้รับความอนุเคราะห์จาก กรมส่งเสริมฯ เข้ามาดูแลให้องค์ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับการปลูกปาล์ม การจัดการดูแล มีกรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาช่วยดูแลการปรับปรุงดิน ตรวจสอบดิน ตลอดจนส่งเสริมให้สวนส้มร้าง เป็นสวนปาล์มให้ได้ สุดท้ายเราทำสวนปาล์มและเก็บผลผลิตได้ดี สม่ำเสมอในทางกลับกันยิ่งผลผลิตมากขึ้นเมื่ออายุปาล์มมากขึ้นด้วย นี้คือสิ่งการันตีคุณภาพของเรา แต่ก็ถูกเมินและยังไม่ได้รับการประกาศสักที จนยื่นเรื่องถึงท่าน สว.ไพบูลย์ ให้เข้ามาดูแลซึ่งท่านก็ได้รับเรื่องไว้แล้วมีการเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องบ่อยครั้งที่รัฐสภาบ้าง หรือแม้แต่ลงพื้นที่เข้าร่วมการประชุมของชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิตด้วยตัวเองบ้าง ท่านเป็นแกนนำหลักในการผลักดันให้เกิดการส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันในเขตทุ่งรังสิตจนได้”
          เฮียมนัสเล่าให้ฟังต่ออีกว่า ข้อเท็จจริงในความล่าช้าที่เกิดขึ้นเมื่อพิจารณาจริงๆแล้ว ขึ้นอยู่กับตัวของเกษตรกรเองด้วย ในครั้งแรกทางชมรมได้ดำเนินเรื่องเรียกร้องให้ได้รับประกาศเขต นั่นหมายถึงประกาศให้เป็นพื้นที่ส่งเสริมทั้งหมดในเขตทุ่งรังสิต หรือ หนองเสือ ต่อมาเมื่อมีการพิจารณาพื้นที่ในแต่ละที่มีความแตกต่างกันออกไปมาก บ้างก็สภาพพื้นที่ไม่เหมาะสมดินเป็นกรด – ด่างเกินไป ยังไม่ได้รับการปรับปรุง บ้างก็เป็นพื้นที่ที่ทำขึ้นมาใหม่จากเดิมอาจเคยปลูกข้าวมาก่อนเมื่อเห็นปาล์มราคาดีจึงปรับพื้นที่มาปลูกปาล์มเป็นต้น
                ดังนั้นทางหน่วยงานที่รับผิดชอบจึงพิจารณาให้เป็นรายแปลง โดยแปลงที่จะได้รับการประกาศนั้นจะต้อง ตรวจวัดความเป็นกรด – ด่างของดีซึ่งมีค่า PH ของดินต้องอยู่ที่ 4 ขึ้นไป แปลงดังกล่าวต้องเป็นแปลงสวนส้มเดิม และเกษตรกรต้องได้ยื่นเจตนาว่ามีความประสงค์จะปลูกปาล์มในพื้นที่สวนส้มร้าง ทั้งนี้ในกรณีพื้นที่ที่เป็นที่นา หากแต่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี จนไม่สามารถทำนาได้ หรือ ทำแล้วขาดทุนก็สามารถยื่นความจำนงได้ จากนั้นทางคณะกรรมการจะพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
                ปัญหาที่ก่อให้เกิดความล่าช้าอีกประการคือ หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลของเกษตรกรแล้วเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ เตรียมส่งเรื่องต่อ ซึ่งบางครั้งขาดข้อมูลเรื่องโน้น เรื่องนี้ต้องลงพื้นที่เก็บเพิ่มเติม แต่เมื่อเก็บข้อมูลเสร็จก็ไม่ได้มีการประชุมเรื่องถูกดองไว้ เมื่อมีการกระตุ้นจากเกษตรกรขึ้นมาก็เริ่มใหม่อยู่อย่างนี้
จากการประชุมกันมาหลายครั้งทำให้สิ่งที่พวกเขาหวังไว้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา โดยมีบางพื้นที่ได้รับประกาศเป็นรายแปลงไปแล้วหลังจากที่รวบรวมข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน โดยไม่ต้องรั้งรอแปลงที่ยังมีข้อมูลไม่พร้อม ทั้งนี้เพื่อให้คนที่พร้อมได้ลุยหน้าทำสวนปาล์มกันได้อย่างเต็มที่และมีรายได้จากการขายผลผลิต จนผ่อนผันหนี้สินได้
ในที่สุดแล้วจากการร่วมมือของทุกฝ่ายที่เอาจริงเอาจังขึ้นมาภายใต้การผลักดันของ สว. ไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ ทำให้ได้รับความสำเร็จในที่สุด
 “สำหรับทางกรมส่งเสริมยังคงให้ความช่วยเหลือด้วยดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะอาจารย์ศักดิ์ศิลป์เป็นตัวยืนอยู่แล้วเช่น เวลาเรามีปัญหาอย่างนี้เราโทรหาแกได้ตลอด เราทะเลาะกันในที่ประชุมเป็นธรรมดาพอออกจากห้องประชุมก็คือพี่กับน้องอาจารย์กับลูกศิษย์ ในที่ประชุมถ้าท่านพูดอยู่ฝ่ายเดียว เราเข้าไปครับผมอย่างเดียว ไม่แย้งเลย มันเป็นไปไม่ได้ ท่านก็จะหลงผิดอยู่ตลอดเข้าใจเกษตรกรผิดตลอด พอเราออกจากห้องประชุมนี้เหมือนพี่กับน้องคือเราไม่ใช่นักการเมืองเราเป็นกลุ่มเกษตรกรที่ต้องอาศัยกรมส่งเสริม กรมวิชาการ สำนักงานเศรษฐกิจเกษตร แต่ถ้าเราปล่อยให้เขาคิดเองมันไม่ถูกต้องให้ชาวหนองเสือคิดบ้าง ให้เราเป็นคนรู้จักคิดบ้างไม่ใช่ให้เราตามอย่างเดียวมันไม่พัฒนาหรอก

อดีตเซียนส้มฟันธงทำสวนปาล์มไม่ใช่เรื่องยาก

หลังจากทุกเรื่องราวผ่านไปได้ด้วยดีแม้จะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินเรื่องนานกว่า 4 ปี สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนกำลังมองพร้อมทั้งตั้งโจทย์วิเคราะห์ตามในใจคือ ชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิตใช้กลยุทธ์ใดเข้ามาจัดการบริหารสวนจนได้ผลผลิตต่อไร่ที่ได้ผลดีเกินคาดเมื่อเปรียบเทียบผลผลิตเฉลี่ย/ไร่/ปี ทั้งประเทศ ทั้งๆที่พวกเขาเป็นมือใหม่สำหรับปาล์มน้ำมัน จนในที่สุดผู้เขียนก็อดที่จะถามออกไปไม่ได้
“เราคือเกษตรกรตัวจริง ไม่ใช่มือใหม่ ปาล์มอาจจะใหม่สำหรับเรา แต่ว่าการปลูกส้มก็อยากนะ ราชการบอกเราว่าดินเหนียวไม่สามารถปลูกส้มได้แต่เราก็ทำมาได้ตั้ง 30 ปี  และสำหรับการปลูกปาล์มนี้ หากใช่หลักวิชาการ เราอาจจะไม่เข้าใจ แต่ว่าการบริหารจัดการเราพร้อม เราบริหารจัดการสวนส้มได้ เพราะองค์ความรู้เกษตรกรสวนส้มปุ๋ย – ยา PH ดินหรือแม้กระทั้ง PH ของน้ำ ความเค็มน้ำ เรามีความรู้ เรามีเครื่องวัดตลอด การปรับปรุงดิน การดูสภาพดิน องค์ความรู้เราเพียบอยู่แล้ว คุยกับใครไม่แพ้ แต่จะให้มานั่งวิเคราะห์น้ำหนักต่อทะลาย ควรใส่ปุ๋ยต่อต้นเท่าไร อันนั้นเราอาจจะยังไม่รู้ แต่มันไม่ใช่ปัญหา เราเป็นเกษตรกรมาทั้งชีวิตนะครับ บางคนอายุ 70 ก็ยังปลูกปาล์ม เพราะปลูกส้มมาแต่อายุ 20 อย่างผมนี้ทำส้มมาตั้งแต่ปี 2519 ตอนนี้อายุ 59 แล้วเรื่องไม่มีความรู้ เรื่องขาดประสบการณ์ไม่ใช่ และเราบริหารจัดการเรื่องคนงานแรงงานได้ ดังนั้น ผมมั่นใจว่าอดีตชาวสวนส้มทุกคนไม่วิตกหรอกหากจะทำสวนปาล์ม”
                สุดท้ายเหมือนเป็นทำเนียมที่ผู้เขียนจะถามแบบเจาะใจเพื่อให้คู่สนทนาได้กล่าวความในใจผ่านไปถึงบุคคลที่ร่วมงานด้วยเมื่อครั้งเดินเรื่องเรียกร้องการประกาศเขต ที่อาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้างพอสมควร ซึ่งเฮียมนัสก็เผยความในใจว่าเขามีความรู้สึกเกรงใจ ทีมงาน หน่วยงาน หรือบุคลที่เข้ามาช่วยส่งเสริมผลักดันเรื่องดังกล่าว อย่างเช่น ดร.ไพบูลย์ ซำศิริพงษ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดปทุมธานี, ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการผลิตยางพาราและปาล์มน้ำมัน, กรมส่งเสริมการเกษตร, สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร และเกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัดทุกส่วน
“ทุกท่านที่เข้ามาช่วย หากผมได้ล่วงเกิน ล่วงล้ำ บางทีพูดต่อว่า หรือทำอะไรที่เป็นการกระทบจิตใจท่าน ผมก็ขอโทษทุกภาคส่วน แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น ผมถือว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง จะอ้างว่าสำนักงานการเกษตรกรมส่งเสริมฯ กรมวิชาการฯ กรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาช่วยเกษตรกร ผมว่าไม่ใช่ แต่มันเป็นหน้าที่ของท่านต้องเข้ามาดูแล เมื่อมีหน้าที่ทุกคนก็ต้องทำตามหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเข้าประชุมเราก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า ตามหลักการ ผมเข้าไปนั่งในกรรมาธิการ ผมก็ต้องต่อสู่ดิ้นรนเพื่อที่จะให้ได้เป็นแปลงส่งเสริมขึ้นมา ผมก็ต้องทำหน้าที่ผมดีที่สุด แต่ออกมาจากที่ประชุมแล้ว เราก็พี่กับน้องไม่ได้มีความโกรธแค้นขุ่นเคืองในหัวใจยังเคารพยกมือไหว้ตามอาวุโส”
สิ่งสุดท้ายอันทรงคุณค่าที่ได้มาหาใช้เพียงชัยชนะเพียงอย่างเดียว หากแต่รายละเอียดระหว่าระยะเวลากว่า 4 ปีสอนให้หลายคนที่มีส่วนร่วมในครั้งนี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหา ความสมัครสมานสามัคคี ความมีน้ำใจ การต่อสู้เพื่อความอยู่รอด หน้าที่ที่แต่ละคนพึงกระทำ ตลอดจนความผูกพันฉันท์พี่น้อง ญาติมิตรได้ก่อตัวขึ้นมา สุดท้ายได้มาซึ่งความสำเร็จที่มีค่ายิ่ง

ผลักดันให้มีการทำปาล์มคุณภาพเพื่อให้เกิดการซื้อขายอย่างเป็นธรรมด้วยเปอร์เซ็นต์น้ำมัน

หลังจากประสบความสำเร็จในเรื่องของร้องขอเป็นพื้นที่ส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันแล้ว แม้ว่าจะได้รับการประกาศแบบรายแปลงก็ตามที และยังคงมีอีกหลายแปลงที่ยังไม่ได้รับการประกาศแต่ก็คงไม่นานเพราะคณะทำงานก็เร่งดำเนินงานกันอย่างเต็มที่
แกนนำชาวสวนปาล์มอย่างเฮียมนัสเผยว่าภาระต่อไปที่ทางกลุ่มกำลังช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อผลประโยชน์แก่ชาวสวนปาล์มที่ไม่ใช่เฉพาะในเขตทุ่งรังสิต แต่จะสะท้อนไปถึงชาวสวนปาล์มน้ำมันทั้งประเทศ นั่นคือ การร่วมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็ง ผลิตปาล์มที่ได้คุณภาพเข้าสู่โรงงาน เพื่อให้ได้มาซึ่งราคาที่จะสูงขึ้นตามคุณภาพของเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สกัดได้ นั่นหมายถึงการผลักดันให้เกิดการซื้อขายอย่างเป็นธรรมด้วยเปอร์เซ็นต์น้ำมัน
“เมื่อเราได้รับเป็นแปลงส่งเสริมแล้ว เราก็จะผลักดันรวมกลุ่มกันให้มีความเข้มแข็ง เพื่อผลิตปาล์มคุณภาพเข้าโรงงาน มีอำนาจในการต่อรองราคา ที่มาจากคุณภาพของผลผลิตปาล์มอย่างแท้จริง  ทางโรงงานรับซื้อผลผลิตปาล์มทะลายเราไป นำไปเข้ากระบวนการหีบแล้วมาบอกเราว่าสกัดได้ 14 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องตั้งราคารับซื้อเท่านี้ เราไม่เชื่อเมื่อ กรมส่งเสริมการเกษตรเขารับพันธุ์ปาล์มมาแจกจ่ายให้เกษตรกร พันธุ์ปาล์มทุกต้นต้องมีคุณภาพ รวมไปถึงคุณภาพในการให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันเมื่อตัดสุกเต็มที่ด้วย แล้วมาบอกว่าเราทำไม่ได้โดยอ้างว่า เกษตรกรรดน้ำ เก็บไม่สุก มันเป็นไปไม่ได้ จะแทงปาล์มอ่อนไปทำไม ในเมื่อปาล์มสุกมันได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น เพียงแค่ 5 วัน น้ำหนักก็เพิ่มขึ้นเป็นกิโลแล้ว สมมติกิโลละ 5 บาทก็ทำให้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 5 บาท/กิโล แบบนี้ทำไมเกษตรกรไม่เอา จะรีบแทงทะลายน้ำหนักยังไม่ได้ไปขายทำไม”
การต่อสู่เพื่อความอยู่รอดของชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิตไม่ได้หมดเพียงแค่ได้รับประกาศส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมัน หากแต่ต้องต่อสู้ด้านคุณภาพผลผลิต ที่ส่งผลต่อราคาซื้อขาย หลังจากมองดูแล้วคงเกิดปัญหาต่อไปหากยังนิ่งดูดายกันเช่นเดิม คอยจับตามองว่าพวกเขาจะเดินหน้ากันอย่างไร แล้วผู้เขียนจะเกาะติดสถานการณ์แล้วนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง


ข้อมูลจาก : นิตยสารพืชพลังงาน ฉบับที่ 49/2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น