Translate

วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555

มนัส สวัสดิ์ชัย..เจ้าของสวนปาล์ม 90 ไร่ มั่นใจสายพันธุ์คอมแพคท์!!

เรื่อง/ภาพ : พยัคฆ์ทมิฬ



คนที่มีความรู้-ประสบการณ์ทำงานอยู่ในบริษัทต่างชาติมักจะมีความคิดและวิสัยทัศน์เป็นระบบ อย่างเช่น คุณมนัส สวัสดิ์ชัย ร่วม 2 ทศวรรษ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทที่เก่งด้านพลังงานไฟฟ้า เล็งเห็นว่าเมื่อเกษียณจากงานบริษัทจะต้องมีอาชีพรองรับ ในที่สุดก็พบว่า ปาล์มน้ำมันคือ พืชพลังงาน ตอบสนองการลงทุนดีกว่าพืชพลังงานตัวอื่นๆ เพราะการดูแลไม่มาก ลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลผลิตกว่า 20 ปี

                จากนั้นก็ตระเวนดูสวนปาล์มหลายรายย่านทุ่งรังสิต พบที่แปลงหนึ่งเป็นสวนส้มเก่า 90 ไร่ เจ้าของขายไร่ 1 แสนบาท เมื่อปี 2550 ตัดสินใจซื้อด้วยเงิน 9 ล้านบาท

                ด้วยองค์ความรู้ว่าด้วยการลงทุนสวนปาล์มเชิงธุรกิจที่คุณมนัสได้เสาะหาจากสื่อต่างๆ และจากเจ้าของสวนปาล์มทุ่งรังสิต จึงตัดสินใจจ้างรถแบคโฮปรับพื้นที่เรื่องส้มเดี่ยวหน้าแคบมาเป็นร่องคู่หน้ากว้าง 13-14 เมตร เพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน โดยเฉพาะหมดเงินเพียงสี่แสนกว่าบาท เพราะจ้างเหมาเป็นรายชั่วโมง

คุณมนัส สวัสดิ์ชัย กับ ปาล์มน้ำมันสายพันธุ์คอมแพคท์ อายุ 4 ปี

                ผมเน้นสายพันธุ์คอมแพคท์เป็นหลักเพราะเป็นสายพันธุ์ที่พัฒนาใหม่ อะไรที่พัฒนาใหม่ต้องมีอะไรดีๆ เคยไปดูพันธุ์ลูกผสมเทเนอร่าเดิมๆ ก็เห็นว่าไม่ค่อยดกคุณมนัสให้ความเห็นและมั่นใจว่าคอมแพคท์ คือ สายพันธุ์มีความสามารถในการตอบสนองต่อพื้นที่และความสามารถในการให้ผลผลิต

                แม้จะต้องจองต้นพันธุ์ 1,250 ต้น จาก บจก.อาร์แอนดีฯ กว่า 6 เดือน แต่เมื่อได้รับคำแนะนำด้านการปลูกและดูแลรักษาจากบริษัทก็ทำให้เกิดความสำเร็จในเบื้องต้น

                วันนี้คุณมนัสปลูกปาล์มพันธุ์คอมแพคท์ 1,000 ต้น ราคาต้นละ 150 บาท อายุ 4 ปี ให้ผลผลิตกว่า 5 ตัน/ไร่ พันธุ์ไนจีเรีย-แบค 400 ต้น ราคาต้นละ 70 บาท อายุ 4 ปี ให้ผลผลิต 2-3 ตัน/ไร่ พันธุ์โกลเด้นเทเนอร่า 250 ต้น ราคาต้นละ 120 บาท อายุ 3 ปี ส่วนพันธุ์ชีหราด 500 ต้น ซื้อจากบริษัท สุขสมบูรณ์ฯ ราคาต้นละ 20 บาท อายุ 4 ปี ให้ผลผลิตไม่ถึงตัน/ไร่ คุณมนัสต้องโค่นทิ้งแล้วนำพันธุ์คอมแพคท์ของ บจก.อาร์แอนด์ดีฯ 500 ต้น ราคาส่วนลดพิเศษจาก 250 บาท เหลือ 150 บาท มาปลูกแทน

                สวน 90 ไร่ ใช้ปลูกปาล์มทั้งหมดประมาณ 2,000 กว่าต้น โดยมีพันธุ์คอมแพคท์เป็นหลัก....

                เรื่องพันธุ์ปาล์มเป็นเรื่องใหญ่ คุณมนัสจึงต้องฝากข้อคิดแก่ผู้ปลูกปาล์มว่า หากเกษตรกรมองหาสายพันธุ์มาปลูกควรศึกษาถึงลักษณะของแต่ละสายพันธุ์ให้ดี เพราะบางพันธุ์ไม่ชอบพื้นที่น้ำมาก อย่าง คอมแพคท์ ให้ผลผลิตดีในสภาพน้ำและดินย่านรังสิต


               สำหรับการบริหารจัดการสวนปาล์มของคุณมนัสก็คล้ายๆ กับสวนปาล์มอื่นๆ ย่านรังสิต เช่น พอเข้าปลายฝนต้นหนาวเดือนพฤศจิกายนดินเริ่มแห้ง ต้องพ่นน้ำด้วยการใช้เรือวิ่งตามร่องแล้วพ่นน้ำจะทำให้ช่อดอกและทะลายออกสม่ำเสมอ ไม่ขาดคอ หรือการหว่านปุ๋ย หรือทำรุ่น ก็ต้องแรงงานรายวัน 6-7 คน มาทำ โดยมีลูกจ้างประจำ 1 คน

                ปุ๋ยเคมีเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับปาล์มน้ำมัน คุณมนัสยึดโปรแกรมการให้ปุ๋ยของบริษัท อาร์แอนดีฯ เป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับ แม่ปุ๋ยแต่มีข้อแม้ว่าคนงานใส่ปุ๋ยแต่ละคนจะถูกแบ่งหน้าที่ชัดเจน เช่น นาย ก.ใส่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 แต่นาย ข.ต้องใส่สูตร 21-0-0 เป็นต้น ส่วนปุ๋ยอินทรีย์คุณมนัสใช้ขี้ไก่เป็นหลักเพื่อปรับสภาพดินโดยใส่ปีละครั้ง ส่วนธาตุอื่นๆ อย่าง โบรอนและโพแตสเซียมก็ต้องใช้ด้วย เพราะเป็นธาตุที่จำเป็นสำหรับปาล์มน้ำมัน

                เมื่อถามถึงศัตรูปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต คุณมนัสกล่าวว่า เรื่องหนูไม่มีปัญหาเพราะเราไม่ปล่อยให้หญ้ารกมาก แต่ด้วงกุหลาบมีมาก ต้องฉีดยาตอนกลางคืน 1 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่ม ทำทุกอาทิตย์ซึ่งการระบาดของด้วงกุหลาบส่งผลให้ใบปาล์มถูกกินเรียบเหลือแต่ก้านใบ คุณมนัสเสียใจมากๆ ตัดสินใจสั่งซื้อยาเมทโทมิวผสมกับ อิมิดาคลอพริด ฉีดพ่นปรากฎว่าได้ผลดี นอกจากนี้ยังมี ด้วงมะพร้าว ที่คลานมากับดินแล้วเจาะทะลุเข้าไปกินยอดอ่อน แก้ปัญหาด้วยการนำฮอร์โมนที่มีกลิ่นของด้วงตัวเมียใส่ถังดัก เคยดักได้ถึง 4,000 ตัว ปาล์มที่ถูกด้วงมะพร้าวกินยอดอ่อนยอดจะมีอาการแห้งแดงๆ ชัดเจน อย่างไรก็ดีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูปาล์มคุณมนัสไม่แนะนำให้ใช้ถ้ามีวิธีอื่นที่ดีกว่า เพราะการใช้สารเคมีจะทำให้แมลงต่างๆ ที่ช่วยผสมเกสรตายไปด้วย ทางที่ดี คือ ต้องหมั่นลงแปลงเดินดูความเป็นไปในแปลงหรือความผิดปกติต่างๆ เมื่อรู้ปัญหาจะได้แก้ไขทันท่วงที ด้วยเหตุนี้วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ คุณมนัสจึงต้องลงเดินดูแปลงทุกครั้ง

ภายในสวนจะเต็มไปด้วยแมลงวีวี่ ที่ช่วยในการผสมเกสร

               ต่อคำถามยอดฮิตปาล์มทุ่งรังสิตต้องช่วยผสมเกสร คุณมนัสกล่าวว่าสายพันธุ์คอมแพคท์ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะช่อดอกพันธุ์คอมแพคท์เต็มไปด้วยฝุ่นละอองเหลืองๆ มีแมลงช่วยผสมพันธุ์เกาะอยู่

                หลังปาล์มคอมแพคท์อายุ 8 เดือน มันจะออกทะลายเล็กๆ ต้องหักทิ้งเพื่อต้องการให้อาหารไปเลี้ยง ลำต้นให้ใหญ่ พออายุได้ 15 เดือน จึงไว้ทะลาย ส่วน ทางใบ3 ปีแรก ไม่ควรตัด ทิ้งไว้ให้มันรับแสงแดดเพื่อสังเคราะห์แสงและปรุงอาหาร หลังจาก 3 ปี ไปแล้ว จึงตัดทางที่อยู่ข้างล่างใกล้ดินทิ้ง

                เมื่อถามถึงต้นทุนในการบริหารจัดการผลผลิต คุณมนัสกล่าวว่าค่าปุ๋ยเป็นหลัก ยิ่งปาล์มอายุมากต้องให้ปุ๋ยมาก ปาล์ม 90 ไร่ ใช้ปุ๋ยปีละ 300,000 บาท แต่ก็คุ้มค่า เพราะรอบตัดปาล์มที่ผ่านมาใช้ปุ๋ยแสนกว่าบาท ขายปาล์ม 4 เดือน ได้เงินหกแสนกว่าบาท จุดคุ้มทุนมันเยอะ เป็นแรงดึงดูดให้เราต้องทำ อนาคตทะลายต้องใหญ่กว่านี้อีก ผลที่ได้ก็ต้องมากขึ้น ปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตเต็มที่ ช่วง 5 ปี ขึ้นไป เพราะฉะนั้นการลงทุนเรื่องปุ๋ยผมไม่กังวลคุณมนัสให้ความเห็นด้วยความมั่นใจ



               อย่างไรก็ดีแม้ปาล์มน้ำมันจะเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแก่การลงทุน แต่มิได้หมายความว่า คุณมนัสจะยอมให้ใครเอาเปรียบง่ายๆ พิสูจน์ได้จากการขายปาล์มให้ลานปาล์มของ บจก.สุขสมบูรณ์ฯ ถูกกดราคาลง 20 สตางค์/กก. เจอ 2 ครั้ง เท่ากับ 40 สตางค์/กก. ขายปาล์ม 18 ต้น ถูกตัดต้นละ 400 บาท คำตอบจากปากของคนซื้อก็คือ มันเป็นไปตามกลไกราคา มาเลเซียลงสุขสมบูรณ์ก็ต้องลง 

คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ (คนแรกขวามือ), คุณภัคจิรา รัชกิจประการ (คนที่สองขวามือ) และ คุณวัชพล ขันมะลิ (คนแรกซ้ายมือ) เข้าเยี่ยมสวนของ คุณมนัส สวัสดิ์ชัย (คนที่สองซ้ายมือ) เจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน 90 ไร่ ที่ทุ่งรังสิต
            
             “ผมไม่รู้ว่ามันจริงหรือไม่ เขาพูดไปเรื่อยตามที่เขาต้องการก็เลยบอกว่าไม่ไหวนะ 3 วัน โดนหนัก ตันละ 400 บาท จึงไปขายให้กลุ่มระพีพัฒน์คุณมนัสเปิดเผยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ปรากฎว่าลานปาล์มระพีพัฒน์ ปาล์มทุก 10 ตัน ที่ซื้อจะคืนเงินให้ลูกค้า 500 บาท ปลายปีจ่ายเงินปันผลและไม่คิดค่าลงปาล์ม ต่างจากลานปาล์มสุขสมบูรณ์คิดค่าลงปาล์มตันละ 100 บาท

                เมื่อถามถึงราคาปาล์มที่ชาวสวนมีกำไรคุ้มค่าแก่การลงทุน คุณมนัสฟันธงว่าควรจะอยู่ที่ 5 บาท/กก. เป็นอย่างน้อย อย่างไรในสถานการณ์ที่ยังไม่สามารถกะเกณฑ์ด้านราคาซื้อขขายได้แน่นอน การเลือกสายพันธุ์ปลูกที่ดี ก็ถือว่าได้ชัยไปกว่าครึ่งแล้ว

นิตยสารพืชพลังงาน ฉบับที่ 55/55