เมื่อฉบับที่แล้วเราได้พูดถึงเส้นทางในการก้าวผ่านอุประสรรค์ต่างๆในการทำสวนปาล์มน้ำมันนอกพื้นที่ส่งเสริมของ
คุณชูชัย และ คุณสุนี กลิ่นเกสร สองสารมีภรรยาอดีตข้าราชการครูมาพอประมาณ
และผู้เขียนได้ทิ้งท้ายไว้ว่า ยังคงมีอุประสรรค์ชิ้นโตรอให้ทั้งสองได้เผชิญอีกคืออะไร
แล้วเขาแก้ไขปัญหากันอย่างไร
ขอกล่าวถึงสภาพแปลงปลูกสักเล็กน้อย
เนื่องจากคุณชูชัยเดิมเป็นคนย่านลาดหลุมแก้ จ.ปทุมธานี
เขาจึงได้รับความนิยมในการสร้างสวนปาล์มแบบยกร่อง
ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นร่องส้มเดิมนั่นเอง แต่สิ่งที่แตกต่างไปจากพักพวกก็คน
เขาจะทำการกลบร่องน้ำเดิม แล้วขุดร่องใหม่ โดยขยายให้พื้นที่หลังร่องกว้างขึ้น
ทั้งนี้เจ้าตัวให้เหตุผลเบื้องต้นว่า
เพื่อให้รากปาล์มได้มีพื้นที่ในการหากินได้มากขึ้น
อีกหนึ่งเทคนิคที่ได้จากชาวสวนปาล์มทุ่งรังสิตคือ
การช่วยผสมเกสร โดยการเก็บเกสรตัวผู้ไว้ แล้วรอให้เกสรตัวเมียออก แล้วนำเกสรตัวผู้ผสมกับแป้งแล้วนำไปพ่นใส่
จากนั้นไม่นานการออกทะลายที่สมบูรณ์ก็มีให้เห็น จนตัดขายได้
สิ่งที่ทิ้งท้ายไว้ฉบับที่แล้วถึงปัญหาที่เขาทั้งคู่เผชิญอยู่สืบเนื่องมาจากกระบวนการผลิตนั่นคือ
“แหล่งรับซื้อ” แม้ในพื้นที่จะมีลานรับซื้ออยู่ก็ตาม
หากแต่เขายอมกัดฟันจ่ายเงินกว่า 7,000 – 10,000 บาท/เที่ยว เป็นค่าจ้างรถหกล้อขึ้นปาล์มไปขายถึงจังหวัดชนบุรี
คำตอบ
ของข้อสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะเสียค่าจ้างรถหกล้อขนปาล์มไปขายไกลๆ ซึ่งจากอำเภอบึงสามัคคี
จ.กำแพงเพชร ไปถึง อำเภอบึงซำอ้อ จ.ปทุมธานี ระยะทางเฉลี่ยกว่า 276 กิโลเมตร แทนที่จะขนไปขายที่ลานในชุมชนตนเองที่ห่างออกไปไม่ถึง
10 กิโลเมตรด้วยซ้ำ
ปัญหานี้ยังไม่มีหน่วยงานไหน
หรือใครยื่นมือเข้าไปจัดระเบียบเพื่อความเป็นธรรมแก่เกษตรกรในพื้นที่
สาเหตุเพราะพืชดังกล่าวยังไม่ได้รับการส่งเสริมปลูกอย่างเป็นทางการ
หรือที่เข้าใจง่ายๆว่าเกษตรกร “ดวงซวย” ที่ปลูกปาล์มน้ำมันนอกพื้นที่ส่งเสริมนั่นเอง
จะทำอย่างไรได้
ในเมื่อพื้นที่ทำกินของแต่ละคนไม่ได้โยกย้ายได้ง่ายๆ หรือ
เลือกที่จะทำในเขตที่เขาส่งเสริมได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินใจส่งปาล์มมาขายถึง
จ.ปทุมธานี
ยังพอให้เขามีเงินเหลือได้ใช้จ่ายอื่นๆอยู่บ้างหลังจากหักต้นทุนต่างๆไปแล้ว
เงินที่ควรจะได้เป็นผลกำไรถูกหดหายไปจากการรับซื้อที่ไม่เป็นธรรม
จึงทำให้คุณชูชัยเลือกที่จะส่งปาล์มไปขายต่างถิ่น
เพราะนอกจากจะได้ราคาที่ดีแล้วยังคงเหลือเงินไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นอีก
ไม่ทำให้ต้องตกอยู่ภาวะจำยอม และขาดทุน
เกษตรกรรายย่อยที่มีผลผลิตปาล์มยังไม่มาก
หากต้องเหมารถวิ่งไปส่งไกลๆอย่างเช่นคุณชูชัยก็คงไม่คุ้มทุน จึงจำยอมที่จะต้องขายให้ลานดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงอย่างไรก็ตามลานปาล์มแห่งนี้ก็ยังสามารถรวบรวมผลผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 100 ตัน/เดือน และเมื่อลานรับซื้อดังกล่าวส่งปาล์มไปขายยังโรงงานที่
จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงเดียวกับลานที่กลุ่มหนองเสือส่งเหมือนกัน
เขาก็จะได้เงินส่วนต่างที่มากมายมหาศาล จุดบอดที่น่ากลัวอย่างนี้
กลับไม่ได้อยู่ในสายตาของ ผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็น “นักส่งเสริม” ในพื้นที่เลย
“มหัตภัยร้าย”
ที่กำลังคืบคลานเข้ามาทำลายเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร
นานแล้วที่พวกเขาต้องต่อสู่กันเพียงลำพัง ทั้งๆที่ปลูกปาล์มน้ำมันกันมานานจนเริ่มทยอยเก็บผลผลิตได้แล้ว
หรือจะต้องรวมตัวกันต่อสู่และเสนอความจำนงให้ภาครัฐได้เห็นอย่างเช่นกลุ่มหนองเสือ หากแต่ใครหละที่จะเป็นผู้ถือธงนำ
และเป็นตัวหลักในการรวมกลุ่ม เพราะจากข้อมูลที่ทราบ
ณ.ปัจจุบันนี้การรวมตัวกันเป็นกลุ่ม หรือ ชมรม ยังไม่มีให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างเลย
ย้อนไปเมื่อ 8 ปีก่อนหน้านี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน
ดำเนินการหาทางพัฒนาสวนส้มร้างกว่าแสนไร่ย่านทุ่งรังสิต และ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ในที่สุดกรมพัฒนาที่ดินก็ได้วางโมเดลการพัฒนาสวนส้มร้างทุ่งรังสิต 2
รูปแบบคือ พัฒนาที่ดินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน
และ การทำการเกษตรผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งปรากฏว่า การปลูกปาล์มภายใต้โครงการ “ทดสอบปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่สวนส้มร้าง”
ได้รับความสนใจอย่างมากของเกษตรกร พร้อมทั้งได้แรงผลักดันจากหน่วยงานส่งเสริมในพื้นที่ทำให้วันนี้
“ปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต” ได้เป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ
สิ่งสำคัญของความสำเร็จนั้นประกอบไปด้วย
การตั้งมั่นในการทำเกษตรชนิดใหม่อย่างจริงจังของเกษตรกร การสามัคคี
มีการร่วมกลุ่มปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนเทคนิค ความรู้
การเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อเพิ่มศักยภาพในการจัดการ และ การผลักดันส่งเสริม
ของหน่วยงานในท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้รวมกันออกมาเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจ
และเป็นต้นแบบที่ดี ที่หลายพื้นที่น่าจะนำไปยุกต์ใช้
เป็นบทพิสูจน์ได้อย่างดีว่า
ปัจจุบันในพื้นที่ภาคกลางอีกหลายจังหวัด
ที่ระบบที่สมบูรณ์สามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้
และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่เคยขาดทุนจากส้ม ลองหันมาสร้างรายได้จากการปลูกปาล์มน้ำ
โดยนำเอาโมเดลปาล์มน้ำมันทุ่งรังสิต อ.หนองเสือ เป็นกรณีศึกษา
ในเขต ไทรงาม จ.กำแพงเพชร มีรับจ้าง รับเหมาตัดปาล์มป่าวคับ
ตอบลบผมอยากรู้ว่าลานปาร์มอยู่ที่ไหนครับ
ลบผมอยู่เขต ต.บ่อถ้ำ
มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับมั้ยครับ
ทำไมไม่ออกรถเองเลย ดีกว่าไปจ่ายค่าจ้างตกเดือนละ14000-20000 ผ่อนเดือนละ 20000 แถมเรายังได้รถ เป็นของเราด้วย
ตอบลบสวัสดีครับ
ตอบลบผมอยู่เขต ต.บ่อถ้ำ
มีอยู่10ไร่ 220ต้นครับ